ตัดภาพปัจจุบัน
“จะว่าไปคุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” แซมถามฌองเรื่องบ้านหลังนี้
“ในเมืองมันน่าเบื่อ ที่นี่มันไม่ต้องมาปวดหัวกับงานวุ่นวาย” ฌองยังคงตอบแบบฌอง
“แล้วคุณเคยทำอะไรมาก่อนจะมาอยู่ที่นี่” แซมถามราวกับว่ากำลังสัมภาษณ์รับทำงาน
“รู้ได้ไงว่าที่นี่ไหน” ฌองปัดคำถาม ด้วยคำถาม
“ก็ เดาเอา ครั้งสุดท้ายที่จำได้ผมอยู่แถวชานเมือง อย่างน้อยที่นี่ก็ต้องอยู่แถวๆนอกเมืองถึงจะพ้นสายตาเปรโดได้”
“ฉลาดนิ ทำไมไม่ลองเดินไปดูล่ะ”
“อย่างกับว่าผมไปเดินได้ที่ไหนล่ะ”
“อุ้ยลืม แป๊บ”
ฌองรีบวิ่งแจ้นออกไปจากห้อง สักครู่พร้อมมากับกล่องใบใหญ่ที่มีคราบฝุ่น เหมือเขาแกะกล่องออก มีถุงป้องกันและกล่องซ้อน เมื่อกล่องสุดท้ายเปิดออก ขาเทียมที่เป็นโครงเหล็กพร้อมสายไฟภายในเผยออก
"ผมไม่เคยใช้ขาเทียม และไม่ต้องนึกว่าจะได้ใช้ด้วย" แซมกังวลกับอวัยวะใหม่
“ก็ฉันรู้ว่ากว่าจะตื่นก็อีกนาน ก็เลยยังไม่ใส่ขาให้ ดังนั้น เก็บเอาไว้ให้ฝุ่นจับเล่นอยู่อย่างนั้นล่ะ แต่ไม่ต้องห่วง ฉันผ่าตัดฐานเชื่อมขาเทียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว หลังจากที่ติดตั้งเสร็จ อีกสัก 2-3 ชั่วโมงถึงจะเดินได้มั้ง”
สามชั่วโมงต่อมา
“เอาล่ะ ที่นี้ลองเดินดู”
แซมเริ่มก้าวขาออก ขาเทียมรู้สึกหนัก และไม่คุ้นชิน แซมเดินเป๋ชนเข้ากับโต๊ะตู้ของหมอฌองหลายครั้ง หมอก็หัวเราะทุกครั้งเมื่อการเดินมันไม่ไปตามที่จะเป็น ตอนนี้ผมเหมือนเด็กน้อยหัดเดิน แซมต้องใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าจะทรงตัวและเดินไปมาได้ แต่ไม่คล่องแบบที่ตอนมีขาจริงๆ
แซมก้าวออกไปยังประตู แล้วเดินออกไปยังนอกบ้าน แซมเห็นว่าตัวเองอยู่บนเขา ข้างหน้าของเขาเป็นที่ราบสลับเนิน เต็มไปด้วยท้องทุ่ง มีรั้วกั้นอย่างดี แสงจากเมืองส่องมาไกลๆ สิบกว่าปีนี้ เมืองเติบโตขึ้นมาก แซมยังจำได้ว่าที่เขานี้ยังอยู่ในเขตที่ไม่ได้สำรวจอยู่เลย เดี๋ยวนี้ห่างออกจากเขตรั้วไปเพียงไม่กี่กิโลเท่านั้น
“สิบปีก่อน แสงจากเมืองยังไม่ชัดขนาดนี้ใช่มั้ยหมอ” แซมถามฌองหลังเขาเดินออกจากบ้านมาตามติดๆ
“ใช่ ใช่ ปกติตอนนั้นฉันจะเห็นแสงแค่ขอบเรืองๆน้อยๆ แต่เดียวนี้มันเปลี่ยนไป เมืองโตขึ้นเยอะ ไร่นาก็ขยับเข้ามา ปัญหาก็เริ่มเยอะตาม”
"เมื่อกี้คุณว่าทุกคนที่อยู่ข้างนอกโดนยิงทิ้งหมดไง แล้วคุณอยู่ใกล้กับพวกนี้ได้โดยที่คุณไม่พรุนเนี่ยได้อย่างไร" แซมสงสัย
"ก็ออกมาก่อนที่พวกนี้จะตีตราว่าเป็นกบฏซี พวกนั้นไม่สนใจคนที่ออกมาก่อนอยู่แล้ว แต่พวกนั้นมาค้นบ้านหลายรอบ และก็ไม่เจออะไรน่าสงสัยซักรอบ" ฌองตอบคำถามคาใจแซม
สี่ปีหลังรัฐประหาร
“วันนี้ เวลาแปดนาฬิกาตามเวลามาตรฐาน ชาวอาณานิคมสองคนในเขตไร่การเกษตรตะวันตก ถูกลอบโจมตีโดยปริศนา ทางกรมสืบสวนกลางได้ออกมาเตือนให้ผู้ประกอบอาชีพบริเวณเขตแดนให้ระมัดระวังในการเดินทางและประกอบอาชีพ อาจมีการโจมตีจากกลุ่มก่อการเดียวกัน
อีกประเด็นข่าว กองทัพได้ประสบความสำเร็จในการเข้ายึดที่พักพิงกบฏที่สนับสนุนระบบเก่าของทรราช ไซมอน แกรนซ์แหล่งสุดท้าย หลังจากที่หนึ่งเดือนก่อนกองทัพได้ล้อมปรา……..”
“เฮ้อ……..โฆษณาชวนเชื่อ เหอะ” ฌอง ชายเริ่มไม่หนุ่มบ่นพึมพำหลังปิดเทเลครอน
“ฌอง พบการเคลื่อนไหวเป็นกลุ่ม ตอนเหนือของไร่ รอคำสั่งต่อไป ” เสียงนาเดียแจ้งเตือนฌอง
“ขอภาพ ด่วน” ฌองเปิดเทเลครอนอีกครั้ง ภาพชายหญิงคู่หนึ่งถูกกลุ่มคนไล่ล่ากำลังวิ่งเข้าหาทางที่ควรเป็นบ้านของเขา
“มีสิ่งมีชีวิตเดินสองขาสองหน่วย ถูกสิ่งมีชีวิตรูปแบบเดียวกันวิ่งตามติด พฤติกรรมไล่ล่า คาดว่าเป็นทหารอานานิคม รอคำสั่งต่อไป ด๊อกเตอร์” ................... ด๊อกเตอร์?”
“ฮืมมมมมมมมมมมม เปิดระบบล่อลวง ถ้าล่อทหารได้ นำสองคนที่โดนไล่มาให้มาที่นี่ ชั้นจะทำบุญสัตว์ยากไร้ซักหน่อย” ฌองพูดแบบพ่อพระ
โดรนจิ๋วบินออกจากบ้านของฌอง แล้วฉายโฮโลแกรมจำลองของสองคนที่ถูกล่าล่อให้ทหารอานานิคมใล่ตามเข้าในป่าลึก ระบบม่านพรางตาถูกลดลง เปิดทางให้ผู้ลี้ภัยอีกสองรายเดินเข้าไป เมื่อเข้าในบ้านแล้ว ม่านพรางก็กลับมาทำงาน
“ชั้นไม่เชื่อว่ามันมีที่นี่จริงๆ” หญิงคนแรกพูด
“นึกว่าด๊อกเตอร์ติงต๊องจะเป็นเรื่องเล่าซะอีก” ชายอีกคนเสริม
“ขอร้อง มาบ้านท่านอย่านินทาเจ้าบ้าน” ฌองบ่นพลางเอาน้ำมาให้ “และชั้นไม่ใช่ด๊อกเตอร์เพี้ยนด้วย…. ฌอง เรียกชั้นว่าฌอง พวกเธอมาทำไรแถวนี้ ถ้าพวกเธอเป็นคู่รักจะมาตั้งตัวอยู่แถวนี้ ขอแนะนำว่า….”
“ไม่ๆๆๆ…...ฉันที และนี่ วี เราเป็นสมาชิกแนวหน้าปลดแอก”
“กบฏสินะ”
“เป็นผมไม่เรียกแบบนั้นนะ คุณก็รู้ว่าเปโดร….” วีพูดสอด
“บลาๆๆๆๆๆๆๆ รู้มั้ยว่าทำไมชั้นถึงหอบตูดจากในเขตนั่นมาในเขากลางป่า? การเมืองบ้าๆไง”
“แต่คุณฌอง แนวหน้าอยากให้คุณช่วย” ทีขอร้อง
“จะเอาไรกับชั้น ชั้นมันด๊อกเตอร์เพี้ยน อย่าลืมสิ”
“เราอยากยืนยันเรื่องข่าวลือ” ทีถาม
“ชั้นเป็นหลายอย่าง แต่ไม่ใช่เจ้ากรมแหล่งข่าว”
“เกี่ยวกับมนุษย์ดัดแปลง มีข่าวว่าคุณสร้างมันตัวนึง ถ้าเราใช้มันพลิกสถานการณ์ในตอนนี้ได้” วีพูดประเด็นไม่อ้อมค้อม
“เหลวไหล ค่าแขนเทียมติดปืนข้างนึงก็มหาศาลแล้ว แล้วของอย่างนั้นมันเอาออกเขตได้ก็…….”
“ฉันขอแค่ใช่หรือไม่” ทีถามกดดัน
“ไม่ และ ไม่มีทางเป็นไปได้”
“นี่เป็นข่าวร้าย กองทัพปลดแอกมัวเสียเวลาตามหาอาวุธที่ไม่มีจริง และข่าวดี พวกทหารก็มัวเสียเวลาตามข่าวลือนี้เช่นกัน เราขออาศัยคืนนี้ก่อนได้หรือไม่ด๊อกเตอร์” วีถามฌอง
“ได้ นาเดียจะนำพวกเธอไปห้องรับรอง อ้อ…...พวกเธอเห็นบันไดเกลียวลงใต้ดินตรงนั้นใช่มั้ย”
“ใช่ ทำไมหรือด๊อกเตอร์?”
“อย่าเขาไปในห้องข้างใน เด็ดขาด ห้องส่วนตัวฉัน กฏง่ายๆ”
ปัจจุบัน
“แค่นี้หรือหมอ” แซมถามหลังจากตั้งใจฟังนิทานจากฌอง
“ก็ นางผู้หญิงนั่นก็ยังสู่รู้แอบเข้าห้องนั้นตอนตีสาม อ้างว่านางหลงทาง ถุย เชื่อก็บ้า คงน่าจะเห็นห้องแคปซูลจำศีลของนายด้วย”
“แล้วเกิดอะไรขึ้น” แซมสงสัย
“ปืนยาสลบ บลาๆ เครื่องฝังความรู้ บลาๆ เป็นบ้า บลาๆๆ แล้วนาเดียเธอหิ้วไปปล่อยกลางป่า ป่านนี้น่าจะตายแล้วมั้ง ส่วนผู้ชาย ไอ้นั่นก็บื้อโครตบรม ชั้นสร้างโคลนนิ่งตัวใหม่ให้มัน ถ้าโคลนไม่พาหลงป่า ก็อาจโดนทหารยิงม่อง” ฌองเล่าเหตุการณ์เเบบไม่ใยดี
“โคลนนิ่ง? ลงทุนมากไปมั้งหมอ แล้วทำให้ตัวโคลนโตทันได้ไงล่ะ แล้วไหนจะความทรงจำ ไหนจะนิสัย....” แซมจับรังสีโม้ของฌองได้
“ก็ชั้นฉลาดอะสิ ปั๊ดโธ่เว้ย” ฌองเริ่มฉุนคนรู้มากแล้ว
“เออๆ แล้วแต่หมอ ผมอยากนอนแล้ว” แซมตัดบทสนทนา
............................................... (ในใจของไซมอน) ...............................................
"มนุษย์ดัดแปลง เรางั้นหรือ? ฌองมีแผนอะไรแน่......... เรากำลังจะเป็นอาวุธที่แค่คอยหาคนใช้ไปแล้วหรือ?"
ไซมอนคิดเรื่อยไปไปต่างๆนาๆ จนกระทั่งมีเสียงดึงสติมา
"เฮ้ไซมอน นายควรไปอาบน้ำนอนได้แล้ว นาเดียเตรียมห้องให้นาย คงไม่สบายเหมือนในเมือง แต่ดีกว่านอนในตู้จำศีลแน่ และถ้าจะอาบน้ำ ที่แขนจะมีปุ่มปลดแขน นายก็ไปอาบน้ำได้แล้วล่ะ " ฌองกล่าว
"ได้ๆ เดี๋ยวผมกลับเข้าไป........เดี๋ยว แล้วมือซ้ายล่ะ"
"มือซ้ายกันน้ำได้ ไม่ต้องห่วง"
Comments (0)
See all