ทีเรียน ชายผู้ที่มีชื่อเหมือนหลุดมาจากนิยายหรือละครแนวจักรๆวงศ์ๆ เป็นกบฏที่ประจำการในค่ายย่อย เขาไม่ได้ออกไปรบ หน้าที่หลักของเขาคือซักผ้าและล้างจานให้คนในแคมป์ รวมถึงงานดูแลจิปาถะด้วย ทีเรียนเคยเป็นคนส่งนมในเมืองมาก่อน และเขาก็ขี่รถส่งนมเข้าไปในป่าก่อนทหารจะจะสร้างรั้วกำแพงล้อมเมือง เขาขี่รถฝ่าแนวกั้นที่ทำแบบลวกๆ จนรถของเขาไม่สามารถขับไปในป่าต่อไปได้ ทีเรียนจึงวิ่งไปเรื่อยโดยไม่รู้เส้นทางจนพบกับหน่วยลาดตระเวนกบฏเข้า ทีเรียนไม่ได้คาดหวังว่าถูกสอบสวนหนักและใช้เวลาสร้างความเชื่อใจกับคนในสังคมใหม่นานพอสมควร ด้วยที่เป็นคนร่างเล็ก แต่ไม่เล็กแบบแคระขนาดเหมือนทีเรียนในนิยายดัง จึงได้แต่ทำงาน"พ่อบ้าน"ในค่ายอยู่เสมอ
ห้าวันก่อนหน้า หมู่ลาดตระเวนเริ่มทำหน้าที่ยามเช้าตามปกติ ทีก็ทำงานในแคมป์เช่นปกติ เมื่อบ่ายในอีกสองวันถัดมา หมู่ลาดตระเวนเหลือรอดมาเพียงสองคนจากห้าคน ในสภาพร่อแร่ คนในแคมป์จึงรีบช่วยปฐมพยาบาลให้แล้วนำสองคนนี้ไปพัก เย็นนั้นหัวหน้าแคมป์จึงเรียกประชุม
"ผมตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้ เราจะย้ายค่ายออกไป โดยเราจะหาจุดยุทธศาสตร์ใหม่ ที่ตรงนี้อาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไห" สหายนำ ผู้นำแคมป์นักรบปลดแอกกล่าว
"แต่คนเจ็บ สหายบังคับการจะทำอย่างไร"นักรบกบฏนายหนึ่งเปิดประเด็น
"ถ้าสหายทั้งสองไม่สามารถเดินทางไปกับเราได้ เราจำเป็นที่จะต้องให้หน้าที่อันทรงเกียรติ..."
"สหายนำจะทิ้งพวกเขาหรือ" ทีเรียนพูดขัด
"สหายที ถ้าสหายทั้งสองถ่วงเราทั้งค่าย เราตายหมดแน่ไม่ช้า"
"สหายบังคับการ! ผมเห็นว่าเราต้องตั้งรับพวกมัน!"นักรบอีกคนเอ่ย
"ไม่..นั่นมัน"
"สหาย....."
การถกเถียงและหารือดำเนินไปผ่านกาลเวลาจนถึงจุดหนึ่ง
"สหายทุกคน ผมทราบดีว่าการที่สหายไม่พอใจในการ...."
ปัง
กระสุนเจาะร่างสหายนำจนล้มทั้งยืน เสียงกระสุนดังถี่ขึ้น นักรบทุกคนต่างหาที่กำบัง และยิงตอบโต้ด้วยอาวุธเท่าที่มี เสียงปืนกระหน่ำทั้งสองฟาก ทีเรียนกึ่งวิ่งกึ่งย่อตัวหลบกระสุนไปในกระท่อมหลบหมุมมืดใกล้กับเตียงสองชั้น เอามือปิดตางอตัวเหมือนเด็กในท้องแม่ เสียงปืนสงบลงพร้อมเสียงตะเบ็งเซ็งแซ่ตะโกนลั่น
"เฮ้ย มึงลุกสิ เอามือไพล่หัวไว้"
"มึง มานี่เลย"
"เผาแม่ง ฮ่าๆๆๆๆ"
เสียงตูมดังสนั่นพร้อมเสียงอะไรบางอย่างกำลังไหม้ ทีเรียนเปิดตาดูพบว่าบ้านไม้กำลังลุกไหม้ เขาตกใจวิ่งแจ้นทะลุกองไฟไปยังประตู ความปวดแสบปวดร้อนทำให้เขาล้มลงทันที่ที่หนีออกจากกระท่อมได้
"เฮ้ย ดูไอ้เตี้ยนี่สิ ฮ่าๆ หนูตื่นไฟว่ะ" ภาพตรงหน้าคือทหารอานานิคมพร้อมอาวุธครบมือ หน้าตาที่ดูเหมือนกรำการต่อสู้มานานทำให้บรรยกาศไม่ค่อยดี
"เอามันไปมัดไว้ ให้มันดูโชว์หน่อย ฮ่าๆๆๆๆ"
ทีเรียนถูกจับมัดไว้กับต้นไม้ต่อหน้าสหายร่วมค่ายที่ถูกคุกเข่าเรียงกัน ทุกคนต่างมีรอยถูกทำร้ายจนหน้าดูไม่จืด
"ด้วยรางวัลความกล้าหาญที่แกเอาแต่หลบในรังหนู กูจะแสดงโชว์พิเศษ นั่นคือ ดูเพื่อนๆมึงโดนเชือด ฮ่าๆๆ"
ทหารอาณานิคมสุ่มเลือกคนมาแล้วเชือดคอต่อหน้ากบฏผู้แพ้ เลือดของพวกเขาไหลนองพื้นแดงฉาน บางคนก็ไม่ตายสนิท เสียงดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตอยู่ผ่านรอยแผลชวนน่าสังเวชยิ่ง
"เฮ้ยๆ ไอ้หนูผี ลืมตาสิวะ" ทหายอีกนายบังคับจับหน้าทีเรียนแล้วเปิดตาชม "โชว์" ที่ทหารอำมหิตกำลังแสดงที่ละคนจนเหลือแต่สหายบังคับการคนสุดท้าย
"เอาละ ไคลแมกซ์สุดท้าย สหายสวะบังคับการ กูควรโชว์อะไรดี นึกซิ กูนึไม่ออกว่ะ"
เสียงทหารเชียร์วิธีการต่างๆนานาที่น่าสะอิดสะเอียน จนสหายนำสะอื้น
"ขอร้องนะ ปล่อยกูไปเหอะ กูยอมแล้ว กูยอมบอกทุกอย่าง ปล่อยกูไปเถอะ ฮือๆๆๆๆ" สหายนำอ้อนวอนขอชีวิต จนทีเรียนเองก็สังเวชใจ
"ห๊ะอะไรนะ กูไม่ได้ยิน อุ๊ยน้ำมันหก โทษที พูดอีกซิวะ กูหูไม่ดี อุ้ยไฟแช็คหล่น อ้าว ชิบหายละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
เสียงกรีดร้องดังเซ็งแซ่ไปทั่วพร้อมเพลิงสีแดงฉานได้กลืนกินสหายนำ จนไฟเรื่มมอด ชีวิตของสหายนำก็มอดไปด้วย บัดนี้ ชะตาของทีเรียนเริ่มริบหรี่เต็มที
"เอาพวกเวรนี่ไปเผาทิ้ง ปล่อยไอ้หนูผีอยู่นี่ไปละกัน ถ้าไม่มีตัวไรแดกคืนไปนี้พรุ่งนี้ก็มีมาไปแดกเองแหละ"
เสียงหัวเราะชอบใจทำให้จิตใจทีเรียนถูกตรึงเอาไว้ ต่อหน้ากองศพที่ถูกไฟแดงเผากลืนกิน เขากลายเป็นวิญญาณที่รอวันตาย ภายใต้พันธนาการทำให้เขาอิดโรย ไร้เรี่ยวแรงที่จะมีชีวิต แล้วก็ผล็อยหลับไป แล้วหวังว่าไม่คิดที่จะตื่นมาเผชิญความโหดร้ายนี้อีกต่อไป
Comments (0)
See all