รุ่งเช้า แซมกับทีเรียนเดินทางออกจากค่าย ทีเรียนหันมองมายังค่ายครั้งสุดท้าย ความทรงจำมากมายผุดขึ้นมาในหัวไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม บวกและลบ เขานิ่งไปชั่วขณะ และหันกลับไปเดินทางพร้อมกับชายครึ่งคนครึ่งหุ่นแปลกหน้าที่รู้จักเพียงเมื่อคืนวาน บรรยากาศในป่ายังคงเช่นเดิม สัตว์น้อยใหญ่ยังคงหาอาหารและโดนจับเป็นอาหารสัตว์อื่น พืชพันธุ์ประหลาดชนิดหนึ่งที่เปลี่ยนสีได้เมื่อถูกสัมผัส ต้นไม้สูงใหญ่ที่เขาเกินที่จะคาดคะเนถึง ทีเรียนที่เดินตามหลังแซม เขานึกได้ว่าแซมยังไม่ได้เล่าอดีตของแซมเลย ด้วยอาการคันๆอันเนื่องจากการใคร่อยากรู้ชีวิตของชายที่พึ่งจะช่วยชีวิตเขาไว้ทำให้ทีเรียนเปิดการสนทนาว่า
"เอ่อ แซม เมื่อคืนนายถามชีวิตชั้นแล้ว ลองเล่าเรื่องของนายมาซิ"
"..........." แซมนิ่งเงียบ
"ฮัลโหลวววววววว" ทีเรียนรบเร้าอยากรู้ชีวิตของแซม
"..........." แซมยังนิ่งเงียบมุ่งก้าวไปยังในป่าเช่นเคย
"ก็ได้ๆ พ่อคนลึกลับ แล้วนายคิดจะไปไหนล่ะตอนนี้"
"ศูนย์กบฏ" แซมตอบห้วนๆ
"บาบิลอนเหรอ บ้าน่า ชั้นก็ไม่เคยไปที่นั่น มีอยู่จริงรึเปล่าก็ไม่รู้เลย" ทีเรียนตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ
"ว่าไงนะ?" แซมตกใจกับคำตอบของทีเรียน
"แคมป์กบฏจะตั้งกระจายไป ตามนอกอาณานิคม เราไม่ได้ติดต่อกันมากนักระหว่างแคมป์ และว่ากันว่ามีค่ายอยู่ค่ายหนึ่งรับหน้าที่สื่อสารกระจายข้อมูลและแผนการให้ หรือเป็นค่ายที่เป็นแหล่งเสบียงหลักที่แต่ละค่ายจะได้รับ เราเรียกที่นั่นว่า บาบิลอน" ทีเรียนอธิบาย
"ไม่มีใครรู้เลยรึไงว่าบาบิลอนมันอยู่ตรงไหน" แซมซักถามเพื่อความชัวร์
"ถ้าคนในแคมป์ย่อยรู้ พวกทหารจะรีดข้อมูลได้ง่ายน่ะซี อันที่จริงเราต้องทำภารกิจลำพังโดยไม่มีการประสานระหว่างแคมป์ในช่วงปกติแล้ว"
"ถูกตัดขาดงั้นหรือ แล้วเราจะตามหาบาบิลอนไปทำไมถ้าตัวตนของค่ายยังไม่มีใครรู้" แซมเริ่มไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหนต่อ หลังเดินออกจากแคมป์สักพักแล้ว
"มันขึ้นว่า ธุระของนายคือเพื่ออะไรกันแน่ล่ะ หึม?" ทีเรียนตอบคำถามด้วยคำถาม
"ทีเรียน จะบอกอะไรให้นะ เราเดินทางมาใกล้จากค่ายของนายมาไกลโข ถ้าเราไม่ไปถึงบาบิลอนหรือค่ายอื่นๆแล้วละก็ ภายในสามวันอาหารเราจะหมด และเราก็ไม่รู้ว่าะล่าสัตว์ในนี้มาทำอาหารจะเป็นอันตรายขนาดไหนด้วย ถ้านายรู้อะไร ชั้นแนะนำว่านายควรรีบบอกโดยด่วน ก่อนเราจะอดตายกันหมด" แซมบีบทีเรียนอ้อมๆ
"โว้วๆ ใจเย็น พ่อนักพูด ชั้นแค่คนทำอาหาร ไม่ใช่นักรบปลดแอก ที่รู้อย่างมากก็เพลงที่่ร้องตอนเมานั่นแหละ" ทีเรียนพูด
ทั้งคู่ต่างเงียบลงไปพักใหญ่ เมื่อตะวันใกล้คล้อย ทั้งสองจึงเตรียมตั้งค่ายหุงหาอาหาร แซมไปหาฟืน ส่วนที่เรียนก็ปรุงอาหาร เหมือนที่เคยทำมาไม่ต่างจากแคมป์นักรบปลดแอกมากนัก
ในขณะที่ทีเรียนกำลังจ้องกองไฟสีส้มแดงปะทะหม้อโลหะที่มีอาหารเดือดปุดอยู่ รอให้อาหารในหม้อสนามสุกนั้น บางสิ่งกำลังจับจ้องทีเรียนจากข้างหลัง เขารู้สึกได้และหันหลังกลับไป สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงป่ามืดและความว่างเปล่า
"ฮืม สงสัยจะคิดไปเอง" ทีเรียนบ่นพึมพำพลางหันกลับไป แต่ทว่า เมื่อเขาหันซ้ายกลับเพียงหน่อยเดียว สัตว์สีข่ามีขนปกคลุมสีน้ำตาลเข้มแยกเขี้ยวขู่ใส่ มันห่างจากทีเรียนไม่กี่เมตร ขนาดของมันสูงพอกับเขาที่กำลังนั่งอยู่ในตอนนี้ สัตว์ร้ายนั้นขู่คำรามเตรียมกระโจนขึ้นใส่
ปิ๊วววววววววว
เสียงแหวกอากาศดังก้องป่า สำแสงสีโทนแดงปะทะร่างสัตว์ร้ายกลางอากาศ ทีเรียน กระโจนอ้าวไปด้านซ้าย ขณะที่สัตว์ร้ายกระโจนลงพื้นไปแบบแน่นิ่ง ไกลๆกันนั้นเองแซมที่หิ้วกิ่งไม้แขนหนึ่งมาในขณะที่อีกแขนที่เผยปืน Penegy ที่ซ่อนไว้ที่ข้อมือบน แซมหักข้อมือกลับ พร้อมทักทายทีเรียนว่า
"ชั้นบอกให้นายเตรียมอาหาร ไม่ใช่เป็นอาหารนะ"
"ฮาฮาฮา ตลกตายละ ขอบใจที่ช่วยละกัน" ทีเรียนกล่าวขอบคุณในเชิงประชด
"จริงๆนี่เป็นการใช้เจ้านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของชั้นละนะ" แซมข่มเรื่องฝีมือการยิงของตน
"ใช่ซี พ่อพระเอก นายทำอะไรมันก็สำเร็จไปหมด แฮปปี้เอนดิ้งจะตายน่า" ทีเรียนแขวะกลับ
"เอ่อ จริงๆก็ไม่สำเร็จหรอก เพราะถ้าสำเร็จทุกอย่างก็คงไม่ต้องมาอยู่ตรงนี้ เป็นผีครึ่งซากแบบนี้" แซมพูดในโทนที่เศร้า ทีเรียนนิ่งไปพักหนึ่ง แต่อดที่จะพูดไม่ได้
"ถ้านายเป็นผีครึ่งซาก ชั้นก็ผีที่ซากโดนขยี้ แล้วเอามาล้างน้ำ เพื่อที่จะมาขยี้ต่อละนะ"
"ก็ถูกของนาย คืนนี้นายนอนไปก่อน เดี๋ยวชั้นเป็นยามกะแรกให้" แซมตัดบทผีเจาะปากของทีเรียน
"โอเค ได้ งั้นมากินข้าวกันก่อนละกัน"
ทั้งสองทานอาหารที่ทีเรียนทำไว้ แน่นอนว่าอาหารที่มีจะไม่ได้มีรสชาติที่ดีเท่าไหร่ตามประสาอาหารกระป๋อง แต่ทั้งคู่ก็นั่งกินแบบเงียบๆจนหมด จากนั้นหลังจากจัดการล้างเครื่องครัวสนามแล้ว ทีเรียนก็เข้านอนในเตนท์ของแซมที่กางไว้
"ฝันดี พ่อพระเอก" ทีเรียนกล่าว
แซมไม่ตอบกลับ และมัวจ้องมองกองไฟน้อยที่ปะทุขึ้นมา เขาเอาไม้เขี่ยงกองไฟเล่นๆ เพื่อฆ่าเวลาให้มันหมดไป
เสียงแอคคอเดี้ยนเคล้าไปกับคนร้องรำทำเพลงหน้ากองไฟ
โอ้แม่นวลนาง เจ้าจางเมื่อเราจากจร
นวลเนื้อเคยนอน ร่วมกลอนเรือนเดียวเกี่ยวพัน
หากสิ้นศึกนี้ ตัวพี่นั้นไม่แปรผัน
จะพาเจ้าไปกัน ไปยังปลายสายธารา.....
แซมตื่นขึ้นมาในท่าชันเข่า ฟ้าเริ่มสาง กองถ่านตรงหน้าที่เคยเป็นกองไฟ แซมลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย ทีเรียนลุกขึ้นออกจากเตนท์นอนพอดี
"ให้ตายเถอะแซม นายนอนยามรึไงกันเนี่ย" มีเรียนพูดไปพลางหาวไป
"เมื่อวานนายเคยพูดว่า ที่แคมป์นายชอบร้องรำทำเพลงใช่มั้ย" แซมถาม
"ใช่ นายอยากรู้ทำไมกัน" ทีเรียนสงสัย
"มีเพลงไหนที่มันร้องประมาณว่า โอ้แม่นวลนาง ทำนองนี้มั้ย" แซมซักต่อไปอีก
"แปปนึงนะ ใช่ เนื้อแบบนี้หรือเปล่า" ทีเรียนร้องเพลงที่เนื้อเพลงที่ฟังแล้วตรงกับที่แซมฝันไว้เมื่อคืน
"ใช่ ใช่ อันนี้แหละ...... แผนที่ ช่วยหาแม่น้ำที่ใกล้ที่สุดหน่อย แล้วหาดูว่าต้นน้ำของแม่น้ำห่างไปเท่าไร"
ระบบเริ่มประมวลผลและแสดงแผนที่โฮโลแกรมออกมา ต้นน้ำของแม่น้ำอยู่ใกล้จากที่ๆทั้งสองอยู่ ประมาณหนึ่งวัน
"เอาละ ชั้นรู้แล้วว่าเราจะต้องไปที่ไหนกัน" แซมกล่าว
Comments (0)
See all