ตอนที่9
ทุกอย่างเหมือนจะดีตอนนี้งานเทศกาลหาเนื้อปีศาจกำลังเริ่มขึ้นเคนจิเองก็ถูกไคย์ทุบหัวมาร่วมกับงานนี้ด้วยเค้าได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ๆไม่มีคนยุ่งวุ่นวายและตามมาราวีเค้าก็ดีแล้วแท้ๆ
"เลดีแอเจสแสแมน..วันนี้มีคนมาหน้าหลายตาเข้ามากขึ้นดูคล้ายกับว่าจะมีผู้ท้าชิ้งหน้าหวานเหมือนตุ๋ดร่วมอยู่ด้วยเรามาดูกันว่าเค้าจะมีฝีมือมากมายขนาดไหน"
"....."
เอาให้มันตายไปข้างสิพะพา..
ไคย์หัวเราะคิกคักในการลากเคนจิออกมาจากเขตสิงตัวของเค้าได้ ด้วยความสามารถที่เค้าเป็นผู้สร้างอาวุธมากมายหลายอย่างถึงแม้ใครหลายคนในการแข่งจะไม่รู้..
เค้าสามารถเอาตัวรอดในการแข่งขันได้เป็นอันชนะได้สบายๆอยู่แล้ว แต่เคนจิจะดูต๋องๆก็เถอะหวังว่าคงไม่โดนนักฆ่าลากไปประหารก่อนนะ
"คอยดูเถอะ..เข้าถึงกลางป่าเมื่อไหร่พ่อจะฟักหัวให้เละทุกตัวเลย.."
เคนจิบ่นงุบงิบกับตัวเองเค้าเริ่งนิสัยพูดแบบยุ้งแล้วตอนนี้
เคนจิหงุดหงิดมากๆในเสียงประกาศงานล่าสัตว์อสูรหายากเค้าไม่ได้อยากมาอยู่ในที่คนเยอะๆแบบนี้ยิ่งคนเยอะยิ่งทำให้เค้าบ้าคลั่งและคุมสติตัวเองไม่ได้ตามไปด้วย
"เจอกันกลางป่า"ไคย์ตบไหล่เคนจิก่อนจะโบกมือไปมาลาแบบหล่อๆแล้วนับหน้าไปก่อน
"งิ้วว."(ป่าอีกแล้วหรอ)
"เฮ่อ..เอ่อ.."
เคนจิตอบกับคู่หู่แล้วก้มลงเก็บดินทรายกลางพื้นเค้าสองสามกำมือก่อนจะมุงหน้าไปยังป่าเป็นคนสุดท้าย
อย่างน้อยๆเค้าคงมีชีวิตรอดต่อสู้กับเจ้าพวกบ้าพลังนั้นแหละ..
"งิ้วงง"(นายคิดว่านายจะชนะไหม?"
"ไม่ละไม่อยากคิดอะไรทั่งนั้น"
"นายทำไมถึงอ่อนแอไม่คิดที่อยากเอาชนะๆให้มันจบไป"งิ้วสัตว์อสูรถามมาก็ขึ้น
"หุบปาก..ฉันคิดว่าการต่อสู้มีไว้เพื่อชีวิตในวันข้างหน้าเท่านั้น"
"ฮ่าๆๆนายเป็นเป็นแค่เด็กที่คิดแปลกๆนะ"
"อาจจะจริง.."
เคนจิเดินเข้าไปในกลางป่าหากแต่ด้วยเสียงที่แสกมามากมายและจำนวนที่คู่แข่งในการแข่งขันครั้งนี้เยอะมากจึงทำให้เค้าคำนวณและคาดการไว้อยู่แล้ว
"ก่อนหน้านี้มีคนเข้าแข่งเท่าไร?"
"จะไปรู้หร๋ออ30มังถ้ารวมกับเพื่อนนายแล้ว"
"มีสัตว์อสูรในป่าเขตนี้เท่าไร"
"หืม คิดว่า1ตัวมัง รวมกับข้า2ฮ่าๆๆๆ"
"งันสบายตอนนี้เราควรจะหาพื้นที่ให้พวกนั้นฆ่ากันให้จบ"
"อ่าวๆไม่แข่งกับเจ้าพวกนั้นแล้วหรอ?แล้วเจ้าเด็กติ๋งต๋องแบบเจ้งคงไม่คิดจะปากโปงจับข้าส่งเอารางวันใช่ไหม?"
"......."
=∆=งิ้ว
^^เคนจิ
"โอไม่หละอย่างน้อยข้าก็ได้ข้อมูลชิ้นสำคัญมาละนะ"
เคนจิได้รีบก้าวยาวไม่วิ่งในป่าหาแต่ตอนนี้มีกลุ่มคนบ้างกลุ่มเริ่มเล่นรู้กฎของการแข่งขันครั้งนี้แล้วในเรื่องของสัตว์อสูรในป่านี้
นี้มันการแข่งฆ่าคนดีๆนี่เอง…
เค้าคิดว่าประสบการณ์ต่อสู้และเทคโนโลยีสมัยนี้อาจจะไม่ก้าวหน้าเท่าภพก่อนอาจจะสามารถใช้แหล่งต้นไม้เป็นสถานที่พักพิงได้อยู่..
"เอ่อนายคิดจะทำอะไรนะ.."
"หูแนบพื้น.."
"แล้วว.."
"ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงคนเดินไปทั่วและเสียงโกน"
"โถ่เจ้าเด็กโง่ง่าวข้าช่วย..กลิ่นน้ำมาทางทิศใต้โนนไปกัน"
"เอ่อขอบคุณงิ้ว..แล้วเสียงโกนเมื่อกี้.."
"คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตจำศีลแง่แซะ!"
"ตายแงะๆ"
"ฮ่าๆๆๆใช่ๆ"
"เฮ้ยตายบ้าบ้ออะไรฟระแล้วเราต้องหาต้นไม้นอนนะเฟ้ย.."
เคนจิเด็กใบไม้ที่คิดว่าเป็นสมุนไพรกันแมลงใส่กระเป๋าตัวเองก่อนจะไปหาน้ำตามาที่สัตว์อสูรคู่หู่บอกตน
"นี้นายคงไม่คิดจะหาต้นไม้ด้วยใช่ไหม?"
"....."รู้ได้ไงฟนะ
"มันจะทำให้นายเสียเวลามากๆเอาเป็นว่าถ้าไปกลางป่าแล้วมีอาหารหรืออาวุธสู้เราหาที่ยืนหลักไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรอ..จริงด้วย
ฉึกก!!
"เฮ้ยย!!"
ดคนจิตกใจร้องลั่นเมื่อเห็นลูกธนูลอยผ่านลมมาทางเค้าและเกือบจะโดนลูกธนูพอดิบพอดีสะด้วยวิ่งตามลมแล้วจ้าา
"ผิดทางนะเฟ้ยยงิ้ววว!!!"
ปิ้วว!!!
ฉึก!
"เดียวค่อยอ้อมก็ได้..เหวออ.."
ปิ้วว…
ฉึก!!
เส้นทางวนรอบนั้นไปเจอกับกลางป่าพอดิบพอดีในช่วงที่เคนจิวิ่งหนีนั้นได้เป็นเส้นตรงไปยังจะดูแปลกและรุกรังไปบ้างเค้าพยายายามวิ่งและวิ่ง
หาทางออกกับเส้นทางแหล่งน้ำจนเจอแต่ไม่ได้คาดการว่าจะเจอกับเจ้าตัวต้นเรื่องของการลากเข้าเข้ามามาเกี่ยวข้อในป่าแห่งนี้
"อ่าวไงเพื่อน..นายก็มาเอาเสบียงเหมือนกันพอดิบพอดีหรอ?"
"เจ้าบ้าไคย์มาถึงก่อนหรอ"
"ฮ่าๆแน่นอน"
ไคย?หรทอเพื่อนคู่หูคู่ของเคนจิที่ตามร่างกายเปื้อนไปด้วยคาบเลือดและอาวุธที่ติดตัวอย่างใดอย่างหนึ่งเค้ากำลังมาหยิบของที่ตอไม้..
ตามกฎ1คนต่อหนึ่งเสบียงหากต้นเกมส์การเข้าป่าสังหารคนไป1หรือ3คนเท่ากับว่ารอดในเขตป่าแห่งนี้แน่นอน
ส่วนสัตว์อสูรกายนั้นยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าจะปรากฏตัวออกมาเพราะว่าตอนนี้มันคือฤดูกาลจำศีลของมันเว้นแต่จะมีเจ้ามนุษย์โง่ๆคนไหนไปปลุกมันเท่านั้นเอง
"นายมาหยิบส่วนของนายไปดิเพื่อน"
"นาย...ทำสภาพ"
"วุ้ยๆไม่ต้องสนใจใส่ใจฉ้าานหรอฮ่าๆๆ.."
เคนจิทำหน้างงนิดหน่อยก่อนจะหยิบของตัวเองและเปลี่ยนทิศไปยังต้นน้ำแต่พอเดินออกหามาเค้าแอบเห็นว่า
ไคย์ทำไมหยิบถุงเสบียงไปเกินกว่าอันอื่นทั้งที่เค้าน่าจะเอาไปเหมือนไปกับเค้าแท้..แต่ด้วยคาบเลือดตามเสื้อผ้าเค้าพยายามไม่คิดในเรืาองที่แย่ๆเข้าไว้
"มนุษย์ถ้าได้ตื่นขึ้นในสัญชาตญาณดิบมันก็เป็นแบบนี้แหละน้าาา.."
"อย่างน้อยเราก็ไปหาฐานหลังไว้ก่อนดีกว่า"
"โถ่..เคนจิ..น่านี้มันต๋องจริงๆฮ่าๆๆ.."
ตอนนี้เค้าฆ่าคนไม่ได้สักคนและจากคำพูดของคู่หูคู่สัตว์อสูรกายของเค้าแล้วนั้นก็ไขความสงสัยไปได้แล้ว
ไคย์ฆ่าทหารในป่าเพื่อเพิ่มเสบียงของตัวเอง
ส่วนเค้าอาจจะต้องหาแห่งต้นเสบียงส่วนตัว
มันจะไปเป็นเพื่อนกันได้รับว่าสรรค์แล้วละ..
เคนจิเริ่มที่จะมุ่งไปทางแหล่งจุดกำหนดของตนเองแต่เหมือนว่าระยะทางที่เค้าไปนั้นเหมือนจะมีคนมาก่อนเสียแล้ว
"อ้าวๆใครกันเนี้ย..แกนี้มันเด็กหน้าเหมือนผู้หญิงนี่หว่า?"
พวกนี้มันหนึ่งในทหารหรือผู้ล่าสัตว์อสูรสินะแต่เหมือนว่าเค้าจะมีเสบียงติดตัวมาแล้วด้วยงานนี้คงต้อง
"ดูสิไอ้ตุ๋ดอย่างนายทำอะไรได้บ้างห่าา"
"อ้าย กลัวจังเย๋ยย..มึงมองดูหน้ากูดีไอ้เวร"
"ห้าม!?"
ควับบ!!
"เชี้ยยอะไรเข้าตากูว่ะ.."
ตึงง!อ๊าาา!
โหให้ตายเถอะแม้คงจะต้องลงมือลงไม้จริงๆใช่ไหมตีหัวไปหนึ่งทีอาจจะน้อยไปรีบเอาเสบียงแล้วมัดใส่ต้นไม้ไว้คงจะดีกว่า..
เคนจิลาเอาเสบียงไปเก็บไว้ในที่ๆแหล่งน้ำพร้อมๆกับเก็บลองรอยไว้ด้วยก่อนจะหาเชือกหรือของที่สามารถลาก
ศัตรูที่กวนบาทาตัวเองเมื่อกี้ไปไกลๆจากเสียงที่จะได้ยินอย่างน้อยๆก็สามารถอุดหูตัวเองให้ได้มากเลยละถ้าหากมันตื่นขึ้นมาจะได้ไม่น่ารำคาญหู
"งิ้ววๆๆ"(ผิดคาดคิดว่านายจะไม่ฆ่าคน"
"ก็ทำไงได้เจ้านี้มีเสบียงนี้น่า"
"งิ้วว"(เจ๋งไปเลยแล้วที่นี้เราคงรอจนค่ำได้)
"ก็หวังว่าจะเป็นอย่างงั้นแต่เชือกเส้นแค่นี้คงเอาไว้ไม่นานหรอก"
เคนจิหาต้นไม้เหมาะและลากร่างคนไปไกลๆให้มากพออีกสักชั่วโมงโมงกว่าๆแหละเจ้ามนุษย์นี้คงจะตื่นก่อนจะหาเศษหญ่าเถาวัลย์มาอีกที
"จะดีไหมถ้าเราเอาเถาวัลย์มาเป็นตัวบอกสัญญาณตื่นว่าอีกฝ่ายหลุดไปได้"
"งิ้วๆๆ.."(ไม่ดีมังนายก็อาจจะโดนอีกฝ่ายตามมาฆ่าเหมือนเดิม)
"จริงด้วย..งันเราคงต้องปล่องเจ้านี้รอดไป"
"เอาจริงๆกฎของกิจกรรมล่าสัตว์อสูรนี้มีกำหนดวันและเวลาไหม?"
"ไม่ละไม่ได้กำหนดอะไรไว้มีแต่หามันเท่านั้น"
"ฉันว่ายากแล้วละ.."
"ทำไมหรองิ้ว?"
"ก็เจ้านั้นมันเป็น…"
สายตามองไปยังพื้นที่เป็นร่องลอยตัวใหญ่เท่าๆกับหัวคนๆหนึ่งทำให้เคนจิขาอ่อนแรงลงเพราะขนสดของมันคือเท้าของหมีหรือไม่ก็สัตว์นักล่าแน่นอน
"เสือขาว..สิ่งมีชีวิตอมตะ"
"แล้วแกรู้ได้ไง?"
"ก็ขนมันตกอยู่ด้วยมองดีๆ"
ขนสีขาวๆยาวๆในตอนแรกเคนจิคิดว่าก้านมะพร้าวหรือก้านหวายแต่ตอนนี้เค้าลองจับดูมันคือขนที่อ่อนนุ่มเหมือนเส้นขนคนแน่นอน
"สะเสือขาวของจริง!!"
"แม้นแล้ว.."
"แล้วจะจับมันอย่างไงเจ้างิ้ว"
"นอนในท้องมันไงเพื่อนเอ่ยไม่สิเข้าไปอยู่ในปากให้มันเคี้ยวเล่นไงเจ้านาย"
"......"กวน
เคนจิลุกออกจากร่างคู่ต่อสู้ดูจากเส้นทางลอยเท้าสัตว์สัตว์อสูรกายแล้วคืนนี้มันคงมาเส้นนี้อีกแน่มีเพียงแต่ว่าเค้าจะรอดหรือจะไม่รอดเท่านั้นเอง
"ไปนอนต้นไม้หรอ?"
งิ้วเจ้าแมลงอสูรกล่าวขึ้นเมื่อรู้ว่าเค้ามีของกินนิสัยมันเริ่มเปลี่ยนเป็นแสนดีไปทันทีเอาเถอะอย่างน้อยเสบียงก็มีตั้งสองอัน
"หุบปากถ้ามีใครมาเห็นผมพูดมากขนาดนี้คงหาว่าผมบ้าแน่ๆ"
"งิ้วๆๆๆ.."เอ่อๆๆพูดแต่ภาษาเดียวจนเมื่อยเฮ่อ"
ดูจากแหล่งน้ำอาจจะมีคนคิดเหมือนกันรีบตังแล้วรีบรอดดูราดราวก่อนดีกว่าลากต้นไม้และกิ้งไม้ตามยกไปทำเป็นฐานไม่ไกลไม่ไกล
"ก่อไฟโอเมื่อมีไฟ..ไฟไฟลุกแจ้มซ่าา.."
"เราจะตายหาพร้อมหน้ากัน..ถุ่ย!!"
"เอาไม่ใช่เพลงนี้หรอ?"
"กลางป่ามันจะมีหรอ..มีแต่ตายละสิไม่ว่า"
แล้วมันรู้จักเพลงมนุษย์ได้ไง?
หลังจากวางแผนผิดในการนอนบนต้นไม้เปลี่ยนมานอนพื้นดินแทนอย่างน้อยคงจะรู้จักเสียงเท้าของคนอยู่บ้าง
เวลาผ่านไปตกค่ำ..ควันไฟหลายต่อหลายก่อเริ่มลอยสูงบนท้องฟ้าเคนจิรีบเอาพืชสมุนไพรมาทางบนตัวจนเหม็นเขียวไปทั้งตัว
"มีไฟลอยอยู่กี่กองเนี่ย.."
งิ้วว"คร่อกๆๆ.."
จากที่เห็นมีอยู่ประมาณเกือบสี่ก้องไฟด้วยกันร่วมกับเราก็เป็นห้าแต่จำนวนคนไม่สามารถบอกได้คิดว่าน่าจะมีคนที่มีประสบการณ์เอาตัวรอดพื้นฐานอยู่บ้าง
"งิ้วจะนอนไปถึงไหน.."
"งู่วว"(อย่ากวนได้ไหมมห่ะ คนจะนอน"
"เจ้าหนอนแมลงเวรนี้ลุกมาช่วยผมเดี่ยวนี้นะเดียวส่งเอารางวัลซะดีไหม?"
"ฮะ!!"
งิ้วได้ยิ่นดังนั้นเริ่มลุกขึ้นก่อนจะบิดขี้เกียดไปสามท่าด้วยกันเค้าเริ่มตั้งสติถามกับเจ้านายที่เพิ่งเอาเสบียงส่วนหนึ่งมาให้เอาเป็นว่สอิ่มแล้วอารมณ์ดี
"ได้ๆเดียวไปดูให้.."
สินเสียงเจ้าแมลงเดินกะดึบไปหนึ่งทีและกะดึบไปสองทีก่อนจะหยุดพักอย่างน่าอเนจอนาถเคนจิได้แต่ตบหน้าตัวเองอย่าปวดหัว
"เดียวไปดูเอง"
"ช้าก่อนข้าลืมไป.."
"อะไรฟระห้ะ!!"
"คาถาแปลงร่างแปป..อย่าเพิ่งวัยรุ่นใจร้อน"
"....."
ปูง!!
ร่างหนอนแมลงเปลี่ยนเป็นมนุษย์ทันใดเค้าแทบหน้าตาจะกินขาดเคนจิได้เอาจริงๆเคนจินอนนี้แทบจะสตันในความกวนประสาดของเค้าคู่หู่แล้ว
"เอาละเรียบร้อย..นายท่านว่าไงนะ"
"ทำงี้ได้ด้วยหรอ!แล้วให้ฉันแบกนายมาตั้งนานสองนานนี้นะ"
"ก็แหมม..นายท่านข้าก็ต้องใช้พลังงานนะกอนหนึ่งอย่างสองอย่างก็ต้องทำนั้นนี้ได้อยู่แล้ว"
"เอ่อๆๆ..งันดูก่องไฟตรงนั้น...ไปสอดแนมมาสะ"
"อ๋อ..ได้รับทราบ"
"แบบเนียนๆ.."
"เอ่อหรา..ได้ครับ"
เคนจิได้แต่เหงื่อแทบแตกไอ้เสียงหรอหราเนี่ยชวนไม่น่าไว้ใจอย่างมากเพราะเหมือนเจ้าปีศาจเลเวลอัพพวกนี้มันก็ไม่ค่อยจะฟังเค้าเท่าไรแล้วด้วย
หากจะเป็นผู้คุมปีศาจจงอย่าอ่อนแอให้มันเห็นอาจจะโดนแดกหรือโดนสลับบทบาทเสียงเอง
"เหอ.."
อ๊ากกกก!!!
แง้ววว!!...
เสียงร้องดังออกมาจากทิศทางหนึ่งเคนจิที่กำลังงับอาหารเข้าปากถึงกับสะดุ้งตกใจขึ้นหรือว่ากับดักเค้าได้ผล!?
"งิ้วสำเร็จแล้วว!!เอ่อออ..จริงด้วยมันไปสอดแนม"
เคนจิรีบคว้าหาอาวุธแต่อาวุธของเค้านั้นไม่ได้มีชิ้นไหนที่สามารถกำจัดเจ้าสัตว์อสูรกายได้สักชิ้นมีแต่อาวุธที่ป้องกันตัวเอง
"ปัดโธ่เอ๋ย..แบบนี้จะปีนขึ้นต้นไม้แล้วนะเฟ้ยย!"
พูดไม่ทั้นจบได้ยื่นเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาแล้วแน่ๆเหมือนเสียงนิ่งแต่เสียงหายใจนี้ใช่ชัวป๊าบๆ..มือกวดกระเป๋านอนนิ่งๆได้แต่ท่องสวดอภิธรรม
"ไม่ทันๆๆๆ.."
ฟืด..ฟาด…
ฟืด..ฟาด…
ตายยย…
…
…..
……
………
………..
ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย…
ตุบบ!!
นอกจากหัวคน..
"อ๊ากกกกก!!ไอ้คู่หูมึงกับมาสักทีสิว่ะ!!"
Comments (0)
See all